วันเสาร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2559

ความเป็นมาของ Afternoon Tea


หลายๆท่านคงเคยได้ยินคำว่า "Afternoon tea" หรือการจิบชายามบ่ายแต่อาจจะยังไม่ทราบที่มา ว่าทำไมต้องจิบชายามบ่ายกันด้วย Dessert store เลยถือโอกาสนำเอาเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ ของการจิบชายามบ่ายให้คุณผู้อ่านได้ทราบกันค่ะ

ธรรมเนียมของการจิบชายามบ่าย หรืออาจเรียกได้ว่าเป็นประเพณีเลยก็ว่าได้ เนื่องจากเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายจากประเทศอังกฤษ โดยย้อนกลับไปในช่วงปี ค.ศ.1660 ในสมัยการปกครองของกษัตริย์ชาลส์ที่ 2 กลุ่มราชวงศ์และชนชั้นสูงในประเทศอังกฤษเริ่มดื่มชากันเนื่องจากได้รับอิทธิพลจากประเทศจีน โดยการดื่มชาในสมัยนั้นยังไม่ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ จนเข้ายุคช่วงศตวรรษที่ 17 "Afternoon tea" หรือการจิบชายามบ่ายได้ถือกำเนิดขึ้น

ผู้ริเริ่มการจิบชายามบ่ายคือ แอนนา หญิงสูงศักดิ์ชาวอังกฤษ ผู้ซึ่งเป็นดัสเชสแห่งเบดฟอร์ด (Duchess of Bedford) ในปี ค.ศ. 1840 เนื่องจากอาหารเย็นประจำตระกูลจะถูกเสิร์ฟเมื่อเวลาสองทุ่ม ทำให้ช่วงเวลาระหว่างอาหารกลางวันและอาหารเย็นห่างกันเป็นเวลายาวนาน ทำให้ดัสเชสแอนนามักจะหิวในช่วงราวๆ บ่ายสี่โมงเสมอ เธอจึงให้แม่บ้านเสิร์ฟชาพร้อมของว่างในช่วงเวลานั้น

โดยแม่บ้านจะเสิร์ฟ ขนมปัง เนย หรือ แซนด์วิชประกบไส้ตรงกลาง ซึ่งในสมัยนั้นจะเรียกว่า Earl of Sandwich และ ขนมเค้ก ในช่วงบ่าย และในภายหลังดัสเชสได้ชักชวนกลุ่มเพื่อนมาร่วมรับประทานของว่างพร้อมน้ำชายามบ่ายจนกลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติเป็นประจำทุกวัน ทำให้ในสมัยนั้น Afternoon Tea จึงแพร่หลายอย่างมากแต่ก็เฉพาะในหญิงสาวชนชั้นสูง หญิงสาวทุกคนจะแต่งกายด้วยชุดเดรสแบบยาว พร้อมถุงมือและหมวกในระหว่างกิจกรรมดื่มน้ำชายามบ่ายนี้

ของหวานที่เสิร์ฟเพื่อรับประทานพร้อมกับชา


จะเป็นของว่าง เช่น Scones  ซึ่งเป็นบิสกิตรสออกหวานมีลักษณะคล้ายมัฟฟินแต่มีเนื้อแห้งและร่วนกว่า บางทีอาจใส่ลูกเกดลงไปด้วย นิยมเสิร์ฟพร้อมกับ Clotted cream (ครีมสีขาวทำมาจากเนย แต่เนื้อสัมผัสหนาข้นกว่าและให้รสชาติหอมมัน) และ แยม (บางครั้งคนอังกฤษจะเรียกว่า preserves) พร้อมด้วย ขนมเค้กชิ้นเล็ก จำพวกคัพเค้ก พายหวาน หรือ ทาร์ต ต่างๆ เป็นต้น
แล้วเพื่อนๆ ล่ะคะ ดื่มชากันตอนไหนบ้างเอ่ย